บล็อก / เจาะลึกการคำนวณจุดคุ้มทุน (ROI) "ระบบโซล่าเซลล์" ติดแล้วกี่ปีคืนทุน?

เจาะลึกการคำนวณจุดคุ้มทุน (ROI) "ระบบโซล่าเซลล์" ติดแล้วกี่ปีคืนทุน?

ROI ระบบโซล่าเซลล์

"ติดโซล่าเซลล์ คุ้มไหม?" "กี่ปีคืนทุน?" นี่คือคำถามแรกที่ทุกคนต้องถามก่อนตัดสินใจลงทุนติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ การติดตั้งโซล่าเซลล์คือการลงทุนก้อนใหญ่ การคำนวณ "จุดคุ้มทุน" หรือ ROI (Return on Investment) จึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเพื่อดูว่าการลงทุนครั้งนี้คุ้มค่าทางการเงินหรือไม่

บทความนี้จะอธิบายวิธีคำนวณจุดคุ้มทุนแบบง่ายๆ ที่คุณเองก็ประเมินเบื้องต้นได้

จุดคุ้มทุน (Payback Period) คืออะไร?

พูดให้ง่ายที่สุด "จุดคุ้มทุน" คือ ระยะเวลา (จำนวนปี) ที่ "เงินประหยัดค่าไฟ" ที่คุณได้จากโซล่าเซลล์ จะรวมกันเท่ากับ "เงินลงทุน" ที่คุณจ่ายค่าติดตั้งไปพอดี

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณจ่ายค่าติดตั้ง 100,000 บาท และโซล่าเซลล์ช่วยคุณประหยัดค่าไฟได้ปีละ 20,000 บาท จุดคุ้มทุนของคุณคือ:

100,000 (ค่าติดตั้ง) / 20,000 (ค่าประหยัดต่อปี) = 5 ปี

หลังจากปีที่ 5 เป็นต้นไป (ตลอดอายุการใช้งาน 20-25 ปี) ค่าไฟที่ประหยัดได้ทั้งหมดคือ "กำไร" สุทธิของคุณ

alt-for-image-187909c5d60103d6c8d18a32a6bcce1f1b29dad9-1280x896-webp

3 ปัจจัยหลักที่ต้องใช้ในการคำนวณ

การคำนวณให้แม่นยำขึ้น จะต้องดู 3 ตัวเลขหลักนี้:

1. เงินลงทุนเริ่มต้น (Total Installation Cost)

นี่คือค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการติดตั้งระบบให้พร้อมใช้งาน ซึ่งรวมทั้ง ค่าแผงโซล่าเซลล์, อินเวอร์เตอร์, ค่าแรงช่าง, ค่าอุปกรณ์ติดตั้ง และค่าขออนุญาตต่างๆ โดยทั่วไปบริษัทผู้ติดตั้งจะเสนอราคามาเป็น "แพ็คเกจ" (เช่น ระบบ 5kW ราคา 150,000 บาท)

2. ค่าไฟที่ประหยัดได้ต่อปี (Annual Savings)

นี่คือตัวเลขที่สำคัญที่สุดและคำนวณยากที่สุด มันขึ้นอยู่กับ:

  • ขนาดระบบ (kW): ระบบใหญ่ก็ผลิตไฟได้มาก
  • พฤติกรรมการใช้ไฟ: คุณต้องใช้ไฟ "ตอนกลางวัน" (ช่วงที่โซล่าเซลล์ผลิตไฟ) เยอะแค่ไหน? ถ้าคุณใช้ไฟกลางวันเยอะ ก็ประหยัดได้เยอะ
  • อัตราค่าไฟ: คุณจ่ายค่าไฟยูนิตละกี่บาท (เช่น 4.5 บาท/ยูนิต)

วิธีคิดง่ายๆ: สมมติระบบ 5kW ผลิตไฟได้เฉลี่ย 20 ยูนิต/วัน และคุณใช้ไฟกลางวันจนหมด 20 ยูนิตพอดี (เรียกว่า Self-Consumption 100%)

  • ประหยัดต่อวัน: 20 ยูนิต x 4.5 บาท = 90 บาท
  • ประหยัดต่อเดือน: 90 บาท x 30 วัน = 2,700 บาท
  • ประหยัดต่อปี: 2,700 บาท x 12 เดือน = 32,400 บาท

3. ปัจจัยอื่นๆ (ที่อาจถูกลืม)

  • ค่าบำรุงรักษา (Maintenance): เช่น ค่าล้างแผง (ปีละ 1-2 ครั้ง) หรือค่าเปลี่ยนอินเวอร์เตอร์ (อาจต้องเปลี่ยนทุก 5-10 ปี)
  • นโยบายภาครัฐ: เช่น มาตรการรับซื้อไฟคืน (ถ้ามี) หรือมาตรการลดหย่อนภาษี
  • อัตราค่าไฟที่เพิ่มขึ้น: แนวโน้มค่าไฟในอนาคตมีแต่จะแพงขึ้น ซึ่งนี่จะทำให้คุณ "คืนทุนเร็วขึ้น" (เพราะส่วนต่างที่ประหยัดได้มากขึ้น)

ตัวอย่างการคำนวณจุดคุ้มทุน (ROI)

ลองมาคำนวณเคสตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุด: บ้านที่ใช้ไฟกลางวันเยอะ ติดระบบ 5kW (On-Grid)

  • เงินลงทุน (A): 150,000 บาท
  • ค่าไฟเฉลี่ยหน่วยละ: 4.5 บาท
  • ระบบ 5kW ผลิตไฟได้เฉลี่ย (ปีแรก): 7,200 ยูนิต/ปี
  • สมมติว่าบ้านนี้ใช้ไฟที่ผลิตได้เอง 80% (อีก 20% เหลือทิ้ง): 7,200 x 80% = 5,760 ยูนิต
  • ค่าไฟที่ประหยัดได้ต่อปี (B): 5,760 ยูนิต x 4.5 บาท = 25,920 บาท

สูตรคำนวณจุดคุ้มทุน (ปี) = A / B

150,000 / 25,920 = 5.78 ปี

นั่นหมายความว่า บ้านหลังนี้จะคืนทุนภายในเวลาประมาณ 5 ปี 9 เดือน

บทสรุป: คุ้มหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคุณ

โดยทั่วไป ระบบโซล่าเซลล์สำหรับบ้านในปัจจุบันมีจุดคุ้มทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 5-8 ปี ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามาก เมื่อเทียบกับอายุการใช้งานของแผงที่ยาวนานถึง 25 ปี

จะคุ้มค่าที่สุดถ้า:

  1. คุณใช้ไฟกลางวันเยอะ (เช่น ทำงานที่บ้าน, เปิดออฟฟิศ, หรือมีผู้สูงอายุอยู่บ้าน)
  2. คุณอยู่ในพื้นที่ที่ค่าไฟแพง
  3. คุณเลือกบริษัทติดตั้งที่น่าเชื่อถือ ใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ

การคำนวณ ROI เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ การลดการปล่อยคาร์บอนและการมีพลังงานสะอาดใช้ ก็เป็น "ความคุ้มค่า" อีกด้านที่ประเมินค่าเป็นตัวเงินไม่ได้เช่นกัน

ติตต่อเราไว้!