รู้จักเครื่องเชื่อมสนาม 4 แบบ พร้อมเคล็ดลับเลือกใช้
ในโลกของงานเชื่อมโลหะ เครื่องเชื่อมสนาม ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้งานเชื่อมสามารถทำได้ในทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่กลางแจ้ง พื้นที่ก่อสร้าง หรือแม้กระทั่งในสถานที่ที่ไฟฟ้าหลักเข้าไม่ถึง ความหลากหลายของเครื่องเชื่อมสนามสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่แตกต่างกันได้อย่างรอบด้าน ทั้งในแง่ของประเภทงาน ความซับซ้อน และลักษณะของวัสดุในงานนั้น
เครื่องเชื่อมสนามได้รับการออกแบบมาให้ทนทานและเคลื่อนย้ายได้สะดวก เหมาะสำหรับงานนอกสถานที่แต่ยังต้องการอุปกรณ์ที่ทำงานสะดวก และมีคุณภาพ เช่น งานซ่อมแซมโครงสร้าง งานก่อสร้าง หรือการเชื่อมในพื้นที่ชนบท โดยเครื่องเชื่อมแต่ละประเภทมีหลักการใช้งาน รวมถึงข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 4 เครื่องเชื่อมสนามยอดนิยม พร้อมวิธีการใช้งาน รวมถึงคุณสมบัติ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกใช้เครื่องเชื่อมที่เหมาะสมกับการใช้งาน
เครื่องเชื่อมสนามคืออะไร?
เครื่องเชื่อมสนาม เป็นเครื่องมือสำหรับงานเชื่อมโลหะที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในสถานที่ที่ไม่สามารถใช้เครื่องเชื่อมในโรงงานหรือพื้นที่ที่มีไฟฟ้าหลักเข้าถึงได้ เครื่องเชื่อมประเภทนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่กลางแจ้ง เช่น งานก่อสร้าง ซ่อมแซมโครงสร้างเหล็ก งานบำรุงรักษาในพื้นที่ชนบท หรือสถานที่ที่ไม่มีโครงข่ายไฟฟ้าหลัก จุดเด่นของเครื่องเชื่อมสนาม คือสามารถเคลื่อนย้ายไปสถานที่ต่าง ๆ ง่าย และมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
เครื่องเชื่อมสนาม แตกต่างจากเครื่องเชื่อมทั่วไปในเรื่องของการออกแบบเพื่อการใช้งานนอกสถานที่ โดยเครื่องเชื่อมสนามจะเน้นความทนทาน รองรับการใช้งานได้หลายรูปแบบมากกว่า ในขณะที่เครื่องเชื่อมทั่วไปมักจะใช้งานสำหรับงานในโรงงานหรือพื้นที่ที่มีไฟฟ้าหลักรองรับ ทำให้เครื่องเชื่อมสนามเหมาะกับผู้ใช้งานที่ทำงานนอกสถานที่ แม้เครื่องเชื่อมสนามจะมีจุดเด่นเหมือนกันคือพกพาไปสถานที่ต่าง ๆ ได้ง่าย และมีประสิทธิภาพในการทำงานสูง แต่การใช้งานเครื่องเชื่อมให้ถูกประเภทเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรทำ เพื่อการใช้งานที่เหมาะสม และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
4 ประเภทเครื่องเชื่อมสนาม และการใช้งานที่แตกต่าง
เครื่องเชื่อมไฟฟ้า Manual Metal Arc (MMA)
เครื่องเชื่อม MMA หรือเครื่องเชื่อมไฟฟ้า เป็นเครื่องเชื่อมที่ใช้หลักการสร้างความร้อนผ่านกระแสไฟฟ้าเพื่อละลายลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ (Flux-Covered Electrode) และโลหะพื้นฐานให้หลอมรวมกัน กลายเป็นรอยเชื่อมที่แข็งแรงทนทาน เครื่องเชื่อมสนามประเภทนี้เป็นหนึ่งในเครื่องเชื่อมที่นิยมใช้กันมากที่สุด เนื่องจากใช้งานง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก และราคาไม่แพง เหมาะกับงานเชื่อมโลหะหรือสแตนเลส บางรุ่นอาจสามารถเชื่อมอลูมิเนียมได้หากมีกระแสเชื่อมถึง 200 Am
ข้อดีของเครื่องเชื่อม MMA
- เครื่องเชื่อมไฟฟ้า MMA มีหลักการทำงานที่ไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการฝึกฝนการเชื่อมโลหะ และมืออาชีพ
- ราคาเครื่องเชื่อม และวัสดุเชื่อม ถูกกว่าเครื่องเชื่อมสนามประเภทอื่น
- เคลื่อนย้ายสะดวก
ข้อเสียของเครื่องเชื่อม MMA
- ต้องอาศัยทักษะความชำนาญของผู้ใช้งานสูง เพราะอาจเกิดการบิดหรือหดตัวของชิ้นงาน
- จำเป็นต้องมีแหล่งจ่ายไฟเพื่อใช้งาน
- ไม่เหมาะกับการเชื่อมชิ้นงานบาง ๆ
- มีควันและสะเก็ดไฟเยอะ
เครื่องเชื่อม TIG (Tungsten Inert Gas)
เครื่องเชื่อม TIG หรือเครื่องเชื่อมอาร์กอน ที่หลายคนรู้จักชื่อนี้กันเป็นอย่างดี เป็นเครื่องเชื่อมที่ใช้กระแสไฟฟ้าสร้างความร้อนผ่านขั้วทังสเตน (Tungsten Electrode) ซึ่งไม่ละลายระหว่างกระบวนการเชื่อม พร้อมกับใช้ก๊าซเฉื่อย เช่น อาร์กอน (Argon) หรือฮีเลียม (Helium) ปกคลุมรอยเชื่อมเพื่อป้องกันการเกิดออกซิเดชันและสิ่งปนเปื้อนในบริเวณที่เชื่อม เครื่องเชื่อม TIG เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดและรอยเชื่อมที่เรียบเนียน ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมโลหะบาง โลหะที่ไวต่อความร้อน หรือชิ้นส่วนที่ต้องการความประณีต
ข้อดีของเครื่องเชื่อม TIG
- รอยเชื่อมมีความสวยงาม เรียบเนียน เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดสูง
- ไม่เกิดสะเก็ดไฟเหมือนเครื่องเชื่อมประเภทอื่น
- รองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น อลูมิเนียม สแตนเลส และโลหะผสม
ข้อเสียของเครื่องเชื่อม TIG
- กระบวนการในการเชื่อมใช้เวลานาน
- ทั้งตัวเครื่องและก๊าซเฉื่อยที่ใช้มีราคาแพงกว่าเครื่องเชื่อมสนามประเภทอื่น
- เครื่องเชื่อม TIG ต้องการความแม่นยำสูง ผู้ใช้จำเป็นต้องมีประสบการณ์และความชำนาญสูง
- ต้องมีแหล่งจ่ายไฟ
เครื่องเชื่อม MIG (Metal Inert Gas)
เครื่องเชื่อม MIG (Metal Inert Gas) หรือเครื่องเชื่อม CO₂ เป็นเครื่องเชื่อมที่ใช้ลวดเชื่อมแบบป้อนอัตโนมัติ ต่างจากเครื่องเชื่อมอาร์กอนที่ต้องใช้คนในการป้อนลวด เครื่องเชื่อม CO₂ อาจต้องใช้แก๊สผสมคาร์บอนในการเชื่อมขึ้นอยู่กับชิ้นงาน เหมาะกับงานเชื่อมทุกประเภท เครื่องเชื่อม MIG ได้รับความนิยมในโรงงานอุตสาหกรรม หรืองานเชื่อมที่ต้องการคุณภาพงานสูง
ข้อดีของเครื่องเชื่อม MIG
- สามารถเชื่อมได้รวดเร็วจากระบบป้อนลวดอัตโนมัติ เหมาะกับงานที่ต้องการความต่อเนื่อง
- รอยเชื่อมที่ได้มีคุณภาพ สวยงาม และไม่มีสะเก็ด
- ใช้งานง่ายแม้มีประสบการณ์น้อย
ข้อเสียของเครื่องเชื่อม MIG
- ไม่เหมาะกับพื้นที่กลางแจ้ง หรือเคลื่อนย้ายบ่อย
- ราคาของอุปกรณ์แพงกว่าเครื่องเชื่อมประเภทอื่น
เครื่องตัดพลาสม่า (Plasma)
เครื่องตัดพลาสม่า เป็นเครื่องเชื่อมที่ต้องต่อกับปั๊มลมเพื่อใช้ลมช่วยในการตัด เครื่องตัดพลาสม่าสามารถตัดโลหะได้ทุกชนิด เช่น เหล็ก สแตนเลส อลูมิเนียม ทองแดง เป็นต้น ซึ่งความหนาที่ตัดได้จะไม่เท่ากันตามชนิดของโลหะ รอยตัดที่ได้มีความสวยงามและสูญเสียเนื้องานน้อย
ข้อดีของเครื่องตัดพลาสม่า
- สามารถตัดโลหะได้ทุกชนิด
- ตัดงานบางได้ดี เนื่องจากความร้อนสะสมน้อยทำให้ลดการบิดงอของงาน
- รอยตัดสวยงาม สูญเสียเนื้องานน้อย
ข้อเสียของเครื่องตัดพลาสม่า
- มีราคาสูง
- ต้องอาศัยความชำนาญของผู้ใช้งาน
- ต้องบำรุงรักษาอุปกรณ์ หรือเปลี่ยนอะไหล่ ทำให้เสียค่าดูแลสูง
เลือกเครื่องเชื่อมสนามอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือก เครื่องเชื่อมสนาม ให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเครื่องเชื่อมแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกเครื่องเชื่อมสนามที่เหมาะกับการใช้งานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ รวมถึงด้านความปลอดภัย หากเลือกใช้อุปกรณ์ไม่ถูกประเภทกับลักษณะงานอาจทำให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้งานได้ เช่น
- เครื่องเชื่อมไฟฟ้า Manual Metal Arc (MMA): เหมาะกับงานเชื่อมโลหะ หรือสแตนเลส ที่ต้องการความทนทาน บางรุ่นอาจสามารถเชื่อมอลูมิเนียมได้ ควรตรวจสอบก่อนเริ่มใช้งาน
- เครื่องเชื่อม TIG (Tungsten Inert Gas): สำหรับงานเชื่อมโลหะ อลูมิเนียม หรือสแตนเลส ที่ต้องการความละเอียด ประณีต และรอยเชื่อมที่เรียบเนียน
- เครื่องเชื่อม MIG (Metal Inert Gas): เหมาะกับงานเชื่อมทุกประเภทในโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องการงานเชื่อมีรวดเร็วต่อเนื่อง และคุณภาพงานสูง
- เครื่องตัดพลาสม่า (Plasma): เหมาะกับการตัดโลหะได้ทุกชนิด เช่น เหล็ก สแตนเลส อลูมิเนียม ทองแดง ทั้งนี้ความหนาที่ตัดได้ขึ้นอยู่กับชนิดของโลหะที่ใช้งาน
เครื่องเชื่อมสนาม เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับงานเชื่อมโลหะ โดยเฉพาะการทำงานที่ต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ไปทำงานด้วยตามสถานที่ต่าง ๆ คุณสมบัติที่โดดเด่นและความสามารถในการรองรับงานเชื่อมหลากหลายประเภท ทำให้เครื่องเชื่อม 4 ประเภท ที่ได้ยกตัวอย่างมา เป็นที่นิยมในการหยิบยกมาใช้งาน เนื่องจากสะดวกในการใช้งาน และคุณภาพของงานมีประสิทธิภาพสูง
การเลือกเครื่องเชื่อมสนามที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้การทำงานของคุณราบรื่น แต่ยังช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนในกระบวนการทำงาน การพิจรณาปัจจัยสำคัญ เช่น ลักษณะงานที่ต้องการทำ วัสดุที่ที่การเชื่อม ความต้องการของพลังงาน และข้อจำกัดในพื้นที่ จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องเชื่อมสนามที่ตอบโจทย์การใช้งานคุณได้อย่างดี
หากคุณสนใจซื้อหรือเช่าเครื่องเชื่อมสนาม บริษัท นำแสงจักรกล จำกัด ตัวแทนผู้จัดจำหน่ายเครื่องเชื่อมนำเข้าจากญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการในประเทศไทย บริการให้เช่าและจำหน่ายเครื่องเชื่อมสนามแบบเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 300-500 AMP ยี่ห้อ Denyo และ ขนาด 500-600 AMP ยี่ห้อ Miller สำหรับงานเชื่อมหนัก พร้อมให้คำปรึกษาตลอดจนการซื้อขาย และบำรุงรักษาอุปกรณ์ โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คุณครบวงจร